"ผมทำทุกอย่างเพื่อคนในทีม"
เด็กหนุ่มจากย่านบาร์กกิ้ง, ลอนดอน
เล่าถึงประสบการณ์การเป็นเด็กเยาวชนของเชลซี
โดยเขาต้องทำหน้าที่ต่างๆที่สนามซ้อมเก่าของทีมอย่าง "แฮร์ริงตัน"
ซึ่งไม่ทันสมัย และสะดวกสบายเหมือนสนามซ้อมปัจจุบันที่ "ค็อบแฮม"
ทั้งหมดนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับบรรดานักเตะรุ่นพี่
และเป็นการสร้างประสบการณ์ ก่อนก้าวมาสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว
"ผมรับหน้าที่เป็นคนชงชา และกาแฟ
จนถึงสิ่งที่โง่เง่าอย่างการนั่งบนฝาชักโครก
(เป็นการปรับอุณหภูมิของฝาชักโครกให้อุ่นขึ้น) เพื่อให้พวกเขานั่งปลดทุกข์แบบอุ่นๆ
ในช่วงวันที่หนาวเหน็บที่สนามฝึกซ้อม มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเหมือนกัน
เมื่อคุณคิดถึงมัน อย่างไรก็ตาม ผมมองว่านี่คือส่วนหนึ่งของการเติบโต"
เขากล่าวต่อว่า บุคคลที่เขาต้องปรนนิบัติเป็นพิเศษ
นั่นคือกัปตันทีมในช่วงเวลานั้นอย่าง "เดนนิส ไวส์" พร้อมกับบอกว่า
ตัวเองจะได้รับเงินพิเศษราว 25 ปอนด์ หากว่าไวส์ สามารถยิงประตูได้
เนื่องจากเขาเป็นคนขัดรองเท้าของรุ่นพี่รายนี้นั่นเอง
"ผมเคยเป็นเด็กทำความสะอาดรองเท้า
และรุ่นพี่ต้องการให้มันออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
ผมจึงดูแลรักษารองเท้าเหล่านั้นเป็นอย่างดี" เขาเล่าต่อ "เดนนิส ไวส์
มอบโบนัสให้ผมเล็กน้อย หากว่าเขาสามารถยิงประตูได้ ผมจะได้รับเงินราว 25 ปอนด์
ซึ่งมันเป็นเงินครึ่งหนึ่งของค่าเหนื่อยผมในช่วงเวลานั้นเลย !!
ผมคอยเฝ้าอธิษฐานเสมอว่า เชลซี จะได้ลูกจุดโทษ และเขาสามารถยิงประตูได้"
ก่อนอายุ 18 ปี
เขาก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม นอกจากการคอยรับใช้รุ่นพี่แล้ว
การฝึกซ้อมร่วมกับนักเตะทีมชุดใหญ่
ก็เป็นแบบทดสอบสำคัญที่เขาต้องก้าวผ่านไปให้ได้เช่นเดียวกัน
"ผมฝึกซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่
และสามารถเอาชนะในการไล่เสียบสกัดได้ด้วย ผมจำได้ว่า ผู้คนพากันบอกว่า
-นายยังจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ !!- บางครั้ง, นักเตะต่างชาติไม่ชอบการไล่เสียบสกัดแบบนั้น
คนหนึ่งที่ไม่ชอบมันเลยคือแดน เปเตรสคู (อดีตดาวเตะทีมชาติโรมาเนีย ของทีมเชลซี)
เขาเคยเข้ามาล็อคคอผม พร้อมกับพูดว่า -นายคิดว่านายกำลังทำบ้าอะไรอยู่ !!-”
"คนแรกที่วิ่งเข้ามาช่วยเหลือผม นั่นคือไวส์
เขาตอกกลับเปเตรสคู ไปว่า -หากนายมีเรื่องอะไรอยากจะพูด นายมาพูดกับฉันได้เลย
อย่าไปเก่งกับนักเตะเยาวชน !!- ทุกวันนี้ ผมกับเปเตรสคู
ยังหัวเราะถึงเหตุการณ์ในวันนั้นอยู่เลย"
จากวันนั้นเป็นต้นมา ไวส์ คงภาคภูมิใจมากว่า
เยาวชนที่เคยขัดรองเท้า, ชงชา-กาแฟ และปรับอุณหภูมิฝาชักโครก
รวมถึงคนที่เขาปกป้องในวันนั้น จะรับปลอกแขนกัปตันทีมเชลซี ต่อจากเขา
พร้อมกับรับใช้สโมสรอย่างยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ
โดยเขาเป็นส่วนหนึ่งของพลพรรค
"สิงโตน้ำเงินคราม" ชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์
ลีก 1 สมัย และยูโรป้า ลีก 1 สมัย
วันนี้, เด็กหนุ่มคนนั้นประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการซึ่งคำกล่าวในวันแรกอย่าง
"ผมทำทุกอย่างเพื่อคนในทีม" ยังคงก้องกังวานอยู่ในสแตมฟอร์ด บริดจ์
ไม่เปลี่ยนแปลง .... จอห์น เทอร์รี่
ที่มา:Football vintage
ไม่มีความคิดเห็น: